เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
ให้ครบทุกมิติด้วยชาเขียวมัทฉะ สูตรเฉพาะ

ประโยชน์จากส่วนประกอบในชาเขียวมัทฉะ สูตรเฉพาะ
ช่วยกระตุ้นสมอง ผ่อนคลายและป้องกันความเสื่อมสภาพของสมอง

หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าเครื่องดื่มยอดนิยมอย่างชาเขียวมัทฉะ นอกจากจะมีรสชาติแสนอร่อยและกลิ่นอันแสนผ่อนคลายแล้ว ชาเขียวมัทฉะยังมีสารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของสมองในแบบที่ครบทุกมิติอีกด้วย ทั้งในด้านความจำ, ความตื่นตัว , ความผ่อนคลาย, และการป้องกันการเสื่อมสภาพ ลองมาดูกันว่าสารสำคัญในชาเขียวมัทฉะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของสมองได้อย่างไร

ป้องกันสมองเสื่อมสภาพด้วยสาร Catechins หรือ EGCG ใน ชาเขียวมัทฉะ

เมื่ออายุมากขึ้นหรือทำงานที่ต้องใช้สมองอย่างหนัก สมองของคนเราก็อาจเกิดการเสื่อมสภาพได้ ซึ่งเมื่อสมองเสื่อมสภาพลง การทำงานของสมองก็จะมีประสิทธิภาพที่ลดลงเช่นกัน ทั้งทำให้ไม่มีสมาธิ ความจำสั้นลง คิดอะไรซับซ้อนได้ไม่ดีเท่าที่ควร และบางครั้งอาจเกิดความสับสนในเรื่องของวันเวลาอยู่บ่อย ๆ แต่การดื่มชาเขียวมัทฉะที่มีสาร EGCG จะช่วยป้องกันความเสื่อมของสมองได้ เพราะ EGCG ในชาเขียวมัทฉะช่วยลดการสะสมของอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของอนุมูลอิสระ และต่อต้านการอักเสบของร่างกาย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เซลล์ในร่างกายและระบบต่าง ๆ เสื่อมสภาพลง ดังนั้นการดื่มชาเขียวมัทฉะ จึงช่วยป้องกันความเสื่อมสภาพของสมองได้

ช่วยให้สมองผ่อนคลายด้วยสาร L-theanine (แอล-ธีอะนีน) ในชาเขียวมัทฉะ

ในแต่ละวันสมองของคนเราต้องทำงานอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา จึงอาจทำให้สมองผลิตสารเคมีที่ทำให้เกิดความวิตกกังวล หรือผลิตคลื่นเบต้าในสมอง (β-wave) ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่จะเกิดขึ้นขณะที่คนเรากำลังใช้สมองในการขบคิดแก้ปัญหาต่าง ๆ ซึ่งหากเราใช้สมองมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดอาการสมองล้าหรือ Brain Fog ที่ทำให้สมองคิดอะไรไม่ออก และเกิดภาวะเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่การดื่มชาเขียวมัทฉะ จะช่วยให้สมองเกิดความผ่อนคลายมากขึ้น เพราะในชาเขียวมัทฉะมีกรดอะมิโน L-theanine (แอล-ธีอะนีน) ที่ร่างกายคนเราไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ซึ่ง L-theanine ในชาเขียวมัทฉะนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคลื่นอัลฟ่าในสมอง (α- wave) ซึ่งเป็นคลื่นที่จะช่วยผ่อนคลายสมอง ลดความตึงเครียด ลดความวิตกกังวล และทำให้เกิดความรู้สึกสงบ นอกจากนี้ L-theanine ในชาเขียวมัทฉะยังช่วยลดการปล่อยคลื่นเบต้าในสมอง (β-wave) จึงช่วยลดความตึงเครียดให้กับสมองได้เป็นอย่างดี

และ L-theanine ในชาเขียวมัทฉะยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารสื่อประสาท GABA (Gamma-Aminobutyric Acid) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยลดการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สมอง เป็นตัวต้านกระแสประสาท ช่วยให้กล้ามเนื้อลดการเกร็งตัว ดังนั้นการดื่มชาเขียวมัทฉะ จึงช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยลดความกระสับกระส่าย และด้วยเหตุนี้การดื่มชาเขียวมัทฉะเป็นประจำ จะช่วยให้สมองได้พักผ่อนและมีความผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง เพราะเมื่อสมองได้พักผ่อน ก็จะช่วยทำให้ความจำดีขึ้น สมองปลอดโปร่งขึ้น มีสมาธิมากขึ้น และสามารถคิดหรือทำงานที่มีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กระตุ้นการทำงานของสมองด้วยสารคาเฟอีนในชาเขียวมัทฉะ

หากคุณรู้สึกง่วงนอนหรือรู้สึกอ่อนล้าไม่สดชื่นแจ่มใส และต้องการปลุกความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสักแก้ว แต่ก็ไม่ต้องการให้ร่างกายรับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไปเช่นกัน การดื่มชาเขียวมัทฉะก็นับเป็นทางเลือกที่ดี เพราะชาเขียวมัทฉะเป็นเครื่องดื่มที่มีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่ากรีนทีจึงให้ความสดชื่นได้มากกว่า แต่ปริมาณคาเฟอีนของชาเขียวมัทฉะก็ยังน้อยกว่ากาแฟ โดยชาเขียวมัทฉะ 1 แก้ว มีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 25-70 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดของแก้วที่เสิร์ฟและปริมาณชาเขียวมัทฉะที่ใส่ ดังนั้นหากต้องการปลุกให้สมองสดชื่นและตื่นตัวเต็มที่ การดื่มชาเขียวมัทฉะก็สามารถช่วยได้ไม่ต่างจากการดื่มกาแฟ เพียงดื่มชาเขียวมัทฉะสักแก้วก็จะช่วยให้สดชื่นและมีพลังงานอยู่ได้ยาวนาน 4-6 ชั่วโมง แถมเมื่อหมดฤทธิ์คาเฟอีนของชาเขียวมัทฉะแล้ว ร่างกายก็จะยังคงสดชื่นแจ่มใสอยู่เหมือนเดิม ไม่เกิดอาการมึนงงและอ่อนล้า ซึ่งต่างกับการได้รับคาเฟอีนจากกาแฟ ที่เมื่อหมดฤทธิ์ของคาเฟอีนในกาแฟแล้ว ร่างกายก็จะกลับไปอ่อนล้าตามเดิม ดังที่เรียกกันว่าอาการ "ถอนคาเฟอีน"

สาเหตุที่การดื่มชาเขียวมัทฉะทำให้ร่างกายสดชื่นและไม่เกิดอาการถอนคาเฟอีนที่ทำให้ร่างกายอ่อนล้า ก็เป็นเพราะในชาเขียวมัทฉะมีสาร L-theanine (แอล-ธีอะนีน) ที่จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมคาเฟอีนช้าลง คาเฟอีนที่อยู่ในชาเขียวมัทฉะจึงค่อย ๆ ออกฤทธิ์อย่างช้า ๆ แต่ก็ออกฤทธิ์ได้อย่างยาวนาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับสารคาเฟอีนอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงไม่ทำให้เกิดความอ่อนล้าในภายหลัง และนอกจากนี้ยังเป็นเพราะในชาเขียวมัทฉะ 1 แก้ว มีปริมาณคาเฟอีนเพียง 25-70 มิลลิกรัมเท่านั้น จึงเป็นปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมกับร่างกายในแต่ละวัน เพราะคนเราสามารถรับคาเฟอีนได้ไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวันเท่านั้น หากร่างกายได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินกว่านี้ ก็อาจจะเป็นอันตรายได้

และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้สมองทำงานอย่างหนัก และมักเกิดความอ่อนล้า สมองไม่แจ่มใส ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับอะไรได้นาน ๆ และยังมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ อยู่บ่อยครั้ง ร่วมถึงผู้ที่มักกระตุ้นสมองให้ตื่นด้วยคาเฟอีนอยู่เป็นประจำ ลองเปลี่ยนมาดื่มชาเขียวมัทฉะแทนกาแฟ หรือลองรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Bios Life E จาก MAEWfeelgreat ที่มีส่วนผสมของชาเขียวมัทฉะ, สารสกัดกรีนที และสารอาหารจำเป็นอีกหลายชนิด ที่จะช่วยปลุกสมองของคุณให้ตื่นตัว ช่วยให้สมองปลอดโปร่งและสดชื่นแจ่มใส ด้วยปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมของชาเขียวมัทฉะ ที่จะช่วยเพิ่มพลังงานความสดชื่นให้กับสมองของคุณ โดยที่ในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันความเครียดให้กับสมอง ด้วยสาร L-theanine และช่วยลดความเสื่อมสภาพของสมองด้วยสาร EGCG ที่มีอยู่ในชาเขียวมัทฉะ ซึ่งจะช่วยให้สมาธิและความจำของคุณดีขึ้น เพียงผสม Bios Life E 1 ซอง เข้ากับน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มที่คุณต้องการในปริมาณ 150-300 มิลลิลิตร จากนั้นเขย่าให้เข้ากันและดื่มทันที โดยดื่มเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น สารอาหารสำคัญต่าง ๆ ของ ชาเขียวมัทฉะ ที่อยู่ใน Bios Life E ก็จะช่วยเสริมสร้างพลังงาน ปลุกให้สมองของคุณตื่นตัว และช่วยให้สมองสดชื่นแจ่มใสขึ้นระหว่างที่คุณอยู่ในช่วงควบคุมอาหารและอยู่ในช่วงที่ลดปริมาณคาเฟอีน หรือต้องการส่งเสริมการทำงานของสมองในช่วงที่ทำงานหนัก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MAEWfeelgreat  ติดต่อ