วิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลา

หมวดหมู่: Knowledge Section

วิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลา

ลดและเพิ่มอาหารบางชนิด พร้อมออกกำลัง คือวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลาที่ได้ผลดี

วิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลา


ในปัจจุบันนี้ผู้คนต่างใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบกันมากขึ้น ทั้งคนวัยทำงาน หรือคนที่ต้องดูแลครอบครัว จึงทำให้คนในยุคสมัยใหม่ไม่ค่อยมีเวลาในการใส่ใจดูแลตัวเองมากนัก ทั้งรับประทานอาหารไขมันสูง โซเดียมสูง ที่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วนอยู่เป็นประจำ เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารสำเร็จรูปจากร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้ยังขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออีกด้วย มิหนำซ้ำหลายคนยังทำงานนั่งโต๊ะอยู่แต่ในออฟฟิศทั้งวัน จึงทำให้ร่างกายขาดการเคลื่อนไหวเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมงในแต่ละวัน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นต้นเหตุของการลงพุงทั้งสิ้น ซึ่งการลงพุงในแต่ละบุคคล ก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไป เช่น บางคนมีหน้าท้องยื่นคล้ายคนตั้งครรภ์หรือบางคนมีพุงเป็นชั้น ๆ ดังนั้นผู้คนที่ไม่มีเวลาให้ตัวเอง จึงมีการเสาะแสวงหาวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลา ที่ทำแล้วได้ผลดีอย่างจริงจังกันอยู่เสมอ ซึ่งวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลานั้นก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน หรือท่ากายบริหารสำหรับลดพุงโดยเฉพาะ รวมถึงวิธีการปรับพฤติกรรมที่จะช่วยให้พุงยุบลงและมีรูปร่างที่ดีขึ้นด้วย

วิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลา ที่เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

พฤติกรรมรับประทานที่ไม่ถูกต้อง ถือเป็นสาเหตุสำคัญของการลงพุงเลยทีเดียว ดังคำกล่าวที่ว่า "กินอย่างไรก็เป็นเช่นนั้น" นั่นเอง ดังนั้นหากคุณกำลังค้นหาวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลา ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องไปเสียเงินแพง ๆ ให้คลินิกเสริมความงาม ก็ควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับรองอาหารเสียใหม่ ดังนี้

  • การลดอาหารที่มีไขมันสูง เพราะหากคุณรับประทานอาหารไขมันสูงเข้าไปในปริมาณมาก แต่ร่างกายนำออกไปใช้น้อย ก็จะทำให้ไขมันไปสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณพุง ดังนั้นหากต้องการปฏิบัติตัวตามวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลาให้ได้ผลดี ก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมันหรือมีไขมันต่ำ เช่น อกไก่, เนื้อปลา, ผักใบเขียวต่าง ๆ, นมพร่องมันเนย, อาหาร Low Fat ทุกประเภท และตามแนวทางที่ดีของวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลา ก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันปรุงอาหาร แล้วเปลี่ยนมาใช้การนึ่ง อบ ต้ม หรือใช้หม้อทอดไร้น้ำมันในการปรุงอาหารแทนการทอดหรือผัด แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรเลือกใช้น้ำมันที่มีไขมันดี เช่น น้ำมันดอก,ทานตะวัน, น้ำมันคาโนล่า หรือน้ำมันรำข้าว

  • หลีกเลี่ยงหรือลดอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด, ข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อ, อาหารแปรรูปต่าง ๆ, ไส้กรอก, เบคอน, ขนมถุงขบเคี้ยว และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง จะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป และโซเดียมนั้นจะทำให้เกิดการดูดซึมน้ำในร่างกายมากกว่าปกติ และนำไปเก็บไว้ที่ใต้ผิวหนัง จึงทำให้เกิดอาการบวมน้ำนั่นเอง ดังนั้นหากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูงอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้ตัวบวม หน้าบวมและพุงป่องได้ แนะนำว่าก่อนซื้ออาหาร ก็ควรอ่านฉลากสินค้าอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบปริมาณโซเดียมของอาหารชนิดนั้น ๆ ไม่ให้เกินค่ามาตรฐานตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ว่าไม่ควรรับประทานโซเดียมเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4 ช้อนชา

  • แนะนำให้รับประทานอาหารบางอย่างเสริมจากอาหารหลัก ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะการดื่มชาเขียวกรีนที ชาเขียวมัทฉะ หรือการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดชาเขียวกรีนที และชาเขียวมัทฉะอย่างสม่ำเสมอ เพราะในชาเขียวมีสารคาเทชิน (Catechin) และคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดไขมันสะสมและกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายได้

  • และเนื่องจากสาเหตุของการลงพุงหรือพุงป่อง ไม่ได้มีที่มาจากการกินอาหารไขมันสูง โซเดียมสูง จนมีน้ำหนักเกิน มีไขมันสะสม และบวมน้ำเท่านั้น แต่การลงพุงยังเกิดจากปัญหาในการขับถ่าย ท้องผูก หรือมีแก๊ซในลำไส้มากเกินไป อันเนื่องมาจากการหมักหมมของของเสียในลำไส้ ดังนั้นอาหารที่แนะนำให้รับประทาน คืออาหารที่มี "โพรไบโอติกส์" เช่น นมเปรี้ยวและโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส, กิมจิ, ชีสบางชนิดที่มีการหมักนาน ๆ, หัวหอม, กระเทียม,นัตโตะ, ถั่วเหลือง, ถั่วแดง, น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ และผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์ ซึ่งโพรไบโอติกส์นี้เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่พบในระบบทางเดินอาหาร และระบบอื่นๆ ของร่างกายคนเรา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารของลำไส้ให้ทำงานดีขึ้น จึงทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ช่วยแก้อาการท้องผูกที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พุงป่อง นอกจากนี้โพรไบโอติกส์ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค ช่วยสร้างเกราะป้องกันให้กับเยื่อบุผนังของลำไส้ และช่วยลดอาการอักเสบที่บริเวณทางเดินปัสสาวะ

และตามวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลาที่ได้ผลดี นอกจากต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารแล้ว ก็ควรจะเพิ่มการบริหารร่างกายเฉพาะส่วนหน้าท้องให้มากขึ้นด้วย โดยท่าบริหารหน้าท้องที่เป็นวิธีที่จะช่วยลดพุงอย่างได้ผล มีทั้งท่าที่สามารถทำได้ในขณะนอนเล่นอยู่บนเตียง, ท่าที่สามารถทำได้ขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน และท่ากายบริหารอย่างจริงจังสำหรับการออกกำลังกายเต็มรูปแบบ ซึ่งคุณสามารถเลือกท่าออกกำลังกายบริเวณหน้าท้องที่เหมาะกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณได้ตามสะดวก

และหากคุณเป็นคนที่ไม่มีเวลาเลยแม้แต่น้อย และไม่สะดวกออกกำลังกายมากนัก วิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลาที่ดีก็ควรเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานให้ได้อย่างจริงจัง และเพิ่มการดื่มชาเขียวกรีนที ชาเขียวมัทฉะ รวมถึงรับประทานโพรไบโอติกส์อย่างสม่ำเสมอ หรือเพียงดื่ม Bios Life E ชาเขียวมัทฉะ สูตรเฉพาะ จาก MAEWfeelgreat ที่มีส่วนผสมของชาเขียวมัทฉะและสารสกัดกรีนที แอลคานิทีน ที่จะช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยผสม Bios Life E 1 ซอง เข้ากับน้ำเปล่าหรือน้ำเย็นในปริมาณ 250-300 มิลลิลิตร จากนั้นเขย่าให้เข้ากันและดื่มทันที โดยดื่มเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น และเพิ่มด้วยการเติมจุลินทรีย์ดีจาก Probionic โปรไบโอนิค 1 ซอง ถือเป็นวิธีลดพุงสำหรับคนไม่มีเวลาที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาอย่างแท้จริง


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MAEWfeelgreat  ติดต่อ

https://www.facebook.com/MaewUNIFeelGreat

23 กรกฎาคม 2567

ผู้ชม 59 ครั้ง

Engine by shopup.com